PASAGORN-JOURNEY

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Art in Paradise เชียงใหม่

ให้ข้อมูลก่อนไปเที่ยวกันครับ...

ทางเข้าทางด้านหน้าครับ
Art in Paradise  พิพิธภัณฑ์ภาพวาด  3 มิติ แห่งแรกในเชียงใหม่ หลังจากที่ประสบความสำเร็จที่พัทยาแล้วเลยมาเปิดอีกฟนึ่งสาขาที่เชียงใหม่  Art in Paradise ที่รวบรวมเอาภาพวาด 3 มิติ เอาไว้มากมาย และเริ่มเปิดประตูให้ทุกท่านได้สัมผัสกับภาพจิตรกรรมเสมือนจริงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2556 ซึ่งก่อตั้งโดย จาง คยู ซอก (Mr. Jang Kyu Suk)ชาวเกาหลีใต้ และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะโดยจิตรกรชาวเกาหลีมืออาชีพที่มีผลงานชนะเลิศ ระดับประเทศกว่า 10 ท่าน และได้ร่วมกันเนรมิตพิพิธภัณฑ์แห่งจินตนาการ สร้างจิตรกรรมบนฝาผนังเสมือนจริง ที่ต้องใช้เทคนิคการวาดภาพ ให้สามารถลวงตาผู้ชมได้ สามารถทำให้ผู้ชมสัมผัส และมีส่วนร่วมกับผลงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิด ให้ความรู้สึกที่เหมือนจริง ประหนึ่งว่าผู้ชมเป็นส่วน หนึ่งของภาพจิตรกรรม

Art in Paradise เชียงใหม่ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 โซน ได้แก่ โซน AQUA โลกใต้ทะเล ท่องดินแดนใต้สมุทร, โซน ZOO สวนสัตว์, โซน DINOSAUR สัตว์โลกล้านปี, โซน SURREALISM ศิลปะเหนือจริง, โซน CLASSIC ART ศิลปะยุคคลาสสิก ที่คุณก็เป็นศิลปินชื่อก้องโลกได้, โซน LANNA ลานนา เพลิน ๆ กับวัฒนธรรมล้ำค่า, โซน THAI ประเพณีไทย สนุกสนานไปกับการละเล่นของไทย และโซน EGYPTIAN อียิปต์โบราณ เปิดประตูสู่ดินแดนลี้ลับ อย่างไรก็ตาม แต่ละโซนก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปตามสไตล์ ใครชอบแบบไหนสไตล์ใดก็แวะไปโพสต์ท่าเก๋ ๆ แอ็คติ้งมันส์ ๆ ถ่ายรูปกันเพลิน ๆ ตามจินตนาการได้ตามใจชอบ

มาดูภายในกันครับ
รูปทางเข้าครับ...โปรดอ่าน
 





 


 


นี่คือหน้าตาคนเขียน Blog ครับ 5555
 
รายละเอียดเพิ่มเติม
Art in Paradise เชียงใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 199/9 ถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (ห้างสรรพสินค้าสีสวนเก่า) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ส่วนบัตรเข้าชมนั้น ผู้ใหญ่ราคา 180 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร) ราคา 120 บาท (ปิดเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว 19.30 น.)  https://www.facebook.com/artinparadise.cnx
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก facebook Art in paradise เชียงใหม่


Hug you ฟร์ามแกะ ลำปาง

ลำปางหนาวมาก....เป็นวลีที่ร้านนี้นำมาเป็นจุดขายรวมถึงการแต่งร้านบรรยากาศและที่ขาดไม่ได้คือ..
เจ้าแกะและผลิตภันฑ์ทุกอย่างที่นำมาจาดแกะ...แกะ...แกะ..

น้องพอใจ..เข้าไปนั่งเล่นก่อนเลย


ภายใน
 ข้อมูลครับ..
ร้านกาแฟจุดแวะพักรถพักคนระหว่างแห่งใหม่เกิดขึ้นที่อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เสนอแนวไอเดียแบบใหม่ๆ ของคำว่าจุดแวะพักรถ กับร้านแวะจิบกาแฟสด ให้มีความแปลกใหม่ชวนมองชวนแวะมากขึ้นด้วยฟาร์มแกะน่ารักๆ จุดถ่ายรูปมากมายหลายมุม จนในที่สุดก็กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของลำปาง ที่เที่ยวที่ว่ากันว่ามาลำปางไม่แวะคงไม่ได้ ความประทับใจกับสถานที่แห่งนี้เมื่อได้ไปแวะครั้งแรกก็คือเมนูกาแฟสดนมแกะ รสชาดไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร คอคาปูชิโนอย่างผมพอได้ชิมคาปูชิโนนมแกะก็ยากที่จะลืม

 การเดินทางมายังฮักยู ฟาร์มแกะกาแฟสดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินบริเวณวังพร้าวไม่ไกลจากทางเข้าอำเภอเกาะคาไปพระธาตุลำปางหลวงมากนัก ถ้ามจากจังหวัดตาก ฮักยูอยู่ขวามือ ก่อนถึงตัวอำเภอเกาะคา 9 กิโลเมตร จุดกลับรถค่อนข้างไกล แต่ผมก็ยอมที่จะกลับรถแวะ ถ้ามาจากลำปางสบายหน่อย ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร บวกลบนิดหน่อย อยู่ซ้ายมือ


 อะไรที่ทำให้เราอยากแวะร้านฮักยูฟาร์มแกะ ถ้าใครขับรถเที่ยวด้วยตัวเองสายเหนือเป็นประจำ จะเข้าใจ จากตัวเมืองลำปางไปจนถึงตัวเมืองตากเป็นระยะทางที่ยาวมากถึง 180 กิโลเมตร ระหว่างนี้จุดที่จะแวะจะพักหายาก พอมี Hug You ปรากฏขึ้นมาริมทาง ก็กลายเป็นจุดแวะพักที่ดีเยี่ยมเลย

 

พอใจ น้าดาว แม่เพ็ญ

แต่งแบบยุโรป....แต่ร้อยตับแตก

อีกมุมนึงของคนชอบถ่ายรูป

ถ้วยเซรามิค

เพิ่มคำอธิบายภาพ





เข้าไปข้างในคิดค่าหญ้ามัดล่ะ 20 บาท

รุมกินกันใหญ่เลย

รูปปั้นแกะ

ไม่หนาวเหมือนกับรูป

อยู่กันครบเลยยกเว้นคนถ่าย

กฏเหล็กของทางฟร์ามเค้า...

วัดพระธาตุลำปางหลวง

พาครอบครัวกลับบ้านในวันหยุดแวะใหว้พระทำบุญสักหน่อย..จร้า..

วัดพระธาตุลำปางหลวง (คำเมือง: LN-Wat Phra That Lampang Luang.png) ตั้งอยู่ในเขตตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผังและส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และอุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน นอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาส ซึ่งประกอบด้วยอาคาร หอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์


ทางขึ้นวัดครับ

ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตามบ้านเมืองต่าง ๆ จนถึงบ้านลัมภะการีวัน (บ้านลำปางหลวง) พระพุทธเจ้าได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อ ลัวะอ้ายกอน เกิดความเลื่อมใส ได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้างมะพร้าว และมะตูมมาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้งแล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่า ลัมพกัปปะนคร แล้วได้ทรงลูบพระเศียรได้พระเกศามาหนึ่งเส้น มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอนผู้นั้น ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้น บรรจุในผอบทองคำ และใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับถวาย แก้ว แหวน เงิน ทอง เป็นเครื่องบูชา แล้วแต่งยนต์ผัด (ยนต์หมุน) รักษาไว้ และถมดินให้เรียบเสมอกัน แล้วก่อเป็นพระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาก็ได้มีกษัตริย์เจ้าผู้ครองนครลำปางอีกหลายพระองค์ มาก่อสร้างและบูรณะซ่อมแซม จนกระทั่งเป็นวัดที่มีความงามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ในทางประวัติศาสตร์นครลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวงมีประวัติว่า เมื่อปี พ.ศ. 2275 นครลำปางว่างจากผู้ครองนคร และเกิดความวุ่นวายขึ้น สมัยนั้นพม่าเรืองอำนาจได้แผ่อิทธิพลปกครองอาณาจักรล้านนาไว้ได้ทั้งหมด พม่าได้ยึดครองนครเชียงใหม่ ลำพูน โดยแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนครอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พม่า ท้าวมหายศ เจ้าผู้ครองนครลำพูนได้ยกกำลังมายึดนครลำปาง โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง ครั้งนั้น หนานทิพย์ช้าง ชาวบ้านปงยางคก (ปัจจุบันอยู่อำเภอห้างฉัตร) วีรบุรุษของชาวลำปาง ได้รวบรวมพลทำการต่อสู้ทัพเจ้ามหายศ โดยลอบเข้ามาในวัด และใช้ปืนยิงท้าวมหายศตาย แล้วตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์ ต่อมาหนานทิพย์ช้างได้รับสถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าทิพย์จักรสุละวะฤๅไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง เชื้อเจ็ดตน ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ น่าน

ข้อมูลจาก..http://th.wikipedia.org/wiki/วัดพระธาตุลำปางหลวง






จบแล้วคครับ..อากาศร้อนมาก



สวนบากหาด เชียงใหม่

สวนงามนามบวกหาด ดารดาษดอกไม้มี
บานชื่นรื่นรมย์สี กลางแสงใสไม้น่าชม....
มุมนี้มีกล้วยไม้ สะพานใหญ่ไว้ข้ามสระ
ใสเย็นเห็นปลานะ แถมมีนกอกอิ่มเพลิน
นกจ๋ารอท่าใคร แม่นกไงให้ใจเขิน
มะมาพากันเดิน ดูไม้ดอกออกชื่นใจ
เพลิดเพลินเชิญชมสวน ดอกไม้ล้วนหลากหลายพันธุ์
ชื่นชมทุกชนชั้น มาแบ่งบันวันเบิกบาน......

บทกลอนบรรยายถึงความรื่มรมย์ที่ได้มาชมธรรมชาติที่สวนบวกหาด สวนสาธารณะของชาวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอยู่กลางเมือง ท่ามกลางความเร่งรีบของสังคมเมือง ที่ชาวเชียงใหม่มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป แต่มุมเล็ก ๆ ที่สวนบวกหาดแห่งนี้ก็เป็นเสมือนที่พักพิงของผู้คนไม่น้อย ทุกเพศทุกวัยที่ปรารถนา จะใช้เวลาในวันหยุดเพื่อการพักผ่อนให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะมาเพื่อวิ่งออกกำลังกาย หรือรำมวยจีน เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า มาวาดรูป ถ่ายรูป ปิกนิกกับครอบครัว มีทั้งร้านขายอาหาร ขนม และผลไม้ที่หลากหลายในทุกฤดูกาล เป็นต้นว่าฤดูที่ลิ้นจี่ - ลำไยก็จะมีเกษตรกรชาวสวนนำพืชผลมาจำหน่ายในราคาถูก ทั้งสดทั้งแถม หรือแม้แต่ผลไม้ที่ขึ้นชื่อของทางใต้อย่างลองกอง มังคุด เงาะ ที่นี่ก็มีจำหน่ายมากมาย


ก่อนหน้านี้นอกจากสวนบวกหาดจะเป็นสวนสาธารณะ ที่นี้เป็นแหล่งรวมสถานที่จำหน่ายพันธุ์ไม้ ทั้งไม้ดอกไม่ประดับเช่นเดียวกับกาดคำเที่ยงในปัจจุบัน ต่อมาร้านค้าเริ่มมีปริมาณมากขึ้น ประกอบกับสวนบวกหาดได้ใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญในระดับประเทศอย่างเช่น งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับที่ขึ้นชื่อของเมืองเชียงใหม่ ที่จัดขึ้นทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทศบาลนครเชียงใหม่เข้ามาดูแล ร้านค้าต่าง ๆ จึงขยายและกระจายตัวออกไปอยู่บริเวณ ต.หายยา ที่อยู่ไม่ไกลกันนี้ ยังคงหลงเหลือร้านขายอุปกรณ์การเกษตร และร้านขายอาหารสัตว์ ร้ายขายปลา เพียงไม่กี่ร้านที่อยู่รายรอบสวนบวกหาด
ด้วยเสน่ห์ที่สวนบวกหาดยังคงความงดงามของพันธุ์ไม้ และสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีนกพิราบมากมายมาอยู่อาศัย ทำให้สวนแห่งนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติ เป็นสวนแห่งเดียวในเมืองเชียงใหม่ ที่ยังคงเป็นที่นิยม และมีผู้มาเยือนอยู่ไม่ขาด สวนบวกหาดจึงให้เป็นสถานที่ในการจัดงานสำคัญอีกงาน นั่นคือ งานลานนาพฤกษชาติ 12 สิงหามหาราชินี ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม โดยจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ สมาคมกล้วยไม้เชียงใหม่ในพระราชินูปถัมภ์ กลุ่มเกษตรทำสวนป่าตัน ชมรมบอนไซเชียงใหม่ได้ร่วมกันจัดงานลานนาพฤกษาชาติ 12 สิงหามหาราชินี ในปี 2552 นี้นับเป็นครั้งที่ 28 ในวันที่ 10-12 สิงหาคม 2552 เพื่อเผยแพร่กล้วยไม้ไทย ไม้ดอกไม้ประดับให้เป็นที่รู้จัก ส่งเสริมการจำหน่ายการค้ากล้วยไม้ของไทยให้แพร่หลาย และกระตุ้นการขยายการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ให้กับประชาชนเป็นการส่งเสริมอาชีพการเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ ในงานมีการประกวดจัดสวนกล้วยไม้ การประกวดกล้วยไม้ ประกวดไม้ดอก – ไม้ประดับ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ การแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การจำหน่ายผลิตผลของเกษตรกร ผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าราคาถูก มหกรรมอาหาร นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงใหม่ในวันดังกล่าว อย่าพลาดที่จะมาเที่ยวชมสัมผัสธรรมชาติกลางเมือง ณ สวนบวกหาดแห่งนี้...